พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
ตะกรุดจำปาสี่ต้...
ตะกรุดจำปาสี่ต้น ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ลำพูน
ตะกรุดจำปาสี่ต้น ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ลำพูน
ตะกรุดจำปาสี่ต้น ยุคต้นเนื้อทองแดง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ทางเหนือเรียกว่า ยันต์จุ๋มป๋าสี่ต้น (คำว่ายันต์ ทางเหนือ หมายรวมถึง ตะกรุด ผ้ายันต์ ตัวยันต์) ตะกรุด จำปาสี่ต้น เป็นตะกรุดที่มีพุทธคุณโดดเด่น ในด้านเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ
ตะกรุดจำปาสี่ต้นเป็นตะกรุดที่หลวงพ่อครูบาวัง สร้างแจกบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่มีอาชีพในด้านค้าขาย มีลูกศิษย์นำไปใช้บูชาประสบความสำเร็จด้วยความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือ จึงได้ชื่อว่า “ตะกรุดค้าแม่น ขายหมาน” คือค่าคล่อง ขายดี
คาถาบูชาตะกรุดจำปาสี่ต้น
“อะหังกิงนโข มะยาปิโวเอหิเอถะมนุสสะอิฐีปุริโสราชาโน พรมมะปะริสันตังปิยะกะยังอะจะริโยกะริสะถะปิยังมามะ” (ใช้สำหรับทำน้ำมนต์ประพรมร้านค้าขาย เป็นคาถาเรียกคนเข้าร้าน)
วิธีใช้
- ถ้าเก็บไว้กับตัวช่วงเย็น จะกันขโมย
- ครอบครัวรุ่มร้อนอยู่ไม่เป็นสุข ให้แช่น้ำแล้วประพรมบ้าน (ใช้ตะกรุดพรม) จะช่วยให้อยู่สบายดี
- สัตว์ไม่สบาย ให้เอาฝักส้มป่อยแช่น้ำ เอายันต์ (ตะกรุดจำปาสี่ต้น) ชุบแล้วพรม จะหายป่วย
- ถูกของทำมาเอายันต์แช่น้ำสะอาดผสมฝัก ส้มป่อยแล้วท่องคาถา นำน้ำนั้นมาประพรมมาอาบ
- เปิดร้านเอายันต์แช่น้ำสะอาดประพรม ของในร้าน
- หากมีคนเกลียดเรา ให้เขียนชื่อใส่ใบโพธิ์ แล้วเอายันต์ทับไว้ เขาจะอ่อแก่เรา ไม่คิดทำร้ายเรา
- ต้องการให้เจ้านายรัก ให้เขียนชื่อใส่ใบตาล แล้วเอายันต์ทับไว้ จะรักเมตตา
- ต้องการให้หญิงรัก เอาใบโพธิ์ที่หล่น (ไม่ใช่ไปเด็ดมา) ทางทิศตะวันตก 1 ใบ ตะวันออก 1 ใบ มาเขียนชื่อเราด้านหน้าใบ 1 เขียนชื่อหญิงด้านหลังใบ 1 แล้วเอาใบไม้ทั้งสองประกบกันให้ด้านที่มีชื่อชนกันโดย ให้ชื่อเราอยู่ข้างบน หลังจากนั้นเอายันต์ทับไว้ อาราธนาคาถาอธิษฐานจิต
- จะไปต่อสู้คดีความกับใครให้พกยันต์ ไว้ข้างหน้า
- จะไปพบหญิงให้พกไว้ข้างซ้าย
- จะไปพบเจรจากับชายให้พกไว้ข้างขวา
เป็นตะกรุดที่หลวงพ่อครูบาวัง สร้างแจกให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่มีอาชีพในด้านค้าขาย สามารถอาราธนาเเช่น้ำทำน้ำมนต์ประพรหมสินค้าที่จะขายได้ หอมฟุ้งเหมือนดอกจำปา
ตัวจริงหายากกว่า 9 กุ่มอีกครับผม
#เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้า เจรจาค้าขาย เจ้าของธุรกิจ
ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก เป็นพระเถระที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติครบถ้วนในสมณสารูป มีความเมตตากรุณาแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยท่านได้สร้างวัดบ้านเด่นตั้งแต่ยังเป็นป่าดง จนกลายเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรือง มีผู้รู้จักกว้างขวางอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังได้สร้างพระเครื่องรางของขลังจนเป็นที่ยอมรับของลูกศิษย์ลูกหาว่าเป็นของดีที่มีคุณค่า ท่านถือกำเนิดที่บ้านต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ย. 2434 ปีเถาะ เป็นบุตรของเจ้าคำปวน และเจ้าบัวเงา ณ ลำพูน บิดามารดาเป็นเชื้อสายเจ้าภาคเหนือ แต่ครอบครัวของพ่อยึดอาชีพค้าขายทำไร่ทำนาตลอดมา มำพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 หญิง 4 ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น “แก้วมหาวงศ์”
เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดบ้านเหมืองจี้ จนกระทั่งอุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2455 ณ วัดบ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระกันธิยะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการปั๋น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการปุ้ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมเสโน”
หลังอุปสมบทแล้วได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยครั้งแรกได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดต้นธงชัย อ.แม่พริก จ.ลำปาง จนได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ 4 พรรษา ต่อจากนั้นได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดสองแคว อ.เมือง จ.ตาก อีก 2 พรรษา และได้เป็นเจ้าอาวาสเช่นกัน หลังจากนั้นจึงได้มาสร้างวัดบ้านเด่น ในจำนวนเวลาที่เดินธุดงค์ 12 ปีนั้น มีอยู่ 2 ปีที่ท่านได้ธุดงค์ไปเมืองย่างกุ้งเพื่อเรียนภาษาพม่า และได้เรียนเวทย์มนต์คาถาที่เป็นภาษาพม่าจนมีความชำนาญอย่างดี จึงเดินทางกลับเมืองไทย ในระหว่างทางได้พบป่าแห่งหนึ่งชื่อ “ป่าเด่นกระต่าย” ซึ่งมีความร่มเย็นน่าอยู่อาศัย และมีหมู่บ้านที่ห่างไกลและยากจน จึงคิดสร้างวัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาวบ้านในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เริ่มแรกท่านได้สร้างกุฏิมุงหลังคาด้วยไม้แฝกก่อน 3 หลัง ซึ่งนับเป็นสำนักสงฆ์ที่แห้งแล้งยังไม่มีอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ต่อมาประชาชนในต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งอยู่ในบริเวณที่สร้างวัดบ้านเด่น ได้มองเห็นความจำเป็นของพระสงฆ์ที่ทนทุกข์ยากลำบากในเรื่องความเป็นอยู่ และอาหารการกิน จึงสละแรงกายแรงใจช่วยกันคนละไม่คนละมือร่วมกับพระสงฆ์สามเณร จนได้ศาลาไม้เก่าขึ้นมาหนึ่งหลัง และให้ชื่อว่า “วัดบ้านเด่น” ตามสถานที่ตั้งวัดซึ่งเป้นป่าเด่นกระต่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ป่าแห่งนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่วัดบ้านเด่นจะมีชื่อเสียงเด่นสมชื่อสมความปรารถนาของครูบาวัง วัดแห่งนี้ได้รับความอุปถัมภ์จากปลักอำเภอเมืองตาก และครอบครัว รวมทั้งประชาชนทั่วไป ปลัดอำเภอท่านนั้นก็คือ “ขุนโสภิต” บิดาของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อครูบาวัง ซึ่งได้มอบตัวเป็นศิษย์และเป็นผู้บริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดเป็นจำนวนมาก ครูบาวังท่านเป็นเจ้าอาวาสผู้ถือปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมาโดยตลอด ได้บำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือสาธุชนผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอมาด้วยความเมตตาปรานี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ทุกหมู่เหล่า โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จนมีศิษยานุศิษย์มากมายทั่วประเทศ
เครื่องรางของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในภาคเหนือ และมีประสบการณ์ความศักดิ์เข้มขลังก็คือ “ตะกรุด” ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ตะกรุด 5 ดอก,9 ดอก,108 ดอก,ตะกรุดจำปาสี่ต้น,ตะกรุดคลอดลูกง่าย,ตะกรุดแหนบใบพลู และสีผึ้งน้ำมนต์ ,ชานหมาก และเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี2506 นอกจากนี้ ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องรักษาไข้และโหราศาสตร์ รวมทั้งมีพรพิเศษอีกประการหนึ่งคือ ท่านสามารถนั่งเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนให้โชคลาภ หรือนั่งเทียนเพื่อให้ชนะคดีความยามขึ้นโรงขึ้นศาล และในเรื่องอื่นๆ วาระสุดท้ายแห่งชีวิต ครูบาวังได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2516 เวลา 24.00 น. ณ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ด้วยวัย 82 ปี พรรษาที่ 62 โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น 56 พรรษา
ผู้สืบสานวิทยาคมล้านนาตำหรับหลวงพ่อครูบาวัง
คืนหนึ่งขณะที่พระอาจารย์ภูไทย ปภากโร เจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว ทุ่งเสลี่ยม สุดขทัยกำลังทำกรรมฐานอยู่ ได้นิมิตไปว่า ได้ไปเจอะพระภิกษุชรารูปหนึ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้เองหลังโบราณ ในนิมิตท่านอาจารย์ภูไทย ได้เข้าไปกราบท่านและขอเรียนวิชากับท่าน ท่านได้เมตตาบอกสอนวิชาพร้อมกับบอกเคล็ดลับบางประการให้ทราบ ทั้งๆที่ตอนนั้นยังไม่ทราบเลยว่าพระภิกษุชรารูปนั้นชื่ออะไร อยู่วัดไหน หลังจากคืนนั้นแล้ว ท่านได้พยายามสอบถาม และพยายามค้นหาว่าพระภิกษุรูปนั้นคือใคร
จนวันหนึ่งหลังจากท่านพระอาจารย์ได้ไปร่วมงานทำบุญอายุวัฒนมงคลของหลวงปู่บุญ โสภณวัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี เสร็จงานท่านได้เดินทางไปจังหวัดขอนแก่น เพื่อทำธุระบางประการ ณ ที่นั้น ท่านได้เจอะพระรูปหนึ่ง ก็ได้สนทนากัน และท่านได้เล่าเหตุนิมิตในคืนนั้นให้พระรูปนั้นฟัง พระรูปนั้นก็บอกว่า น่าจะเป็นหลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก ซึ่งท่านได้มรณะภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๖ แล้ว
ผู้เข้าชม
495 ครั้ง
ราคา
8000
สถานะ
ยังอยู่
โดย
ponsrithong2
ชื่อร้าน
พลศรีทองพระเครื่อง2 ( บู เชียงราย )
ร้านค้า
ponsrithong2.99wat.com
โทรศัพท์
0639695995
ไอดีไลน์
busoftware52
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน
เหรียญเสมาพุทธซ้อน รุ่นสร้างพิ
เหรียญหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
พระนาคปรกใบมะขาม หลวงพ่อกุหลาบ
เหรียญนั่งโต๊ะ หลังพระพิฆเนศ ค
เหรียญรุ่นแรก ครูบาราศรีตุ๊เจ
พระปิดตาพังพระกาฬ รุ่นคันฉ่องส
เหรียญรุ่นที่ 109 พิเศษตอกโค๊ต
เหรียญหลวงพ่อคูณ เหรียญยอดนิยม
พระผงวงศ์เข็มมาหลวงปู่สิม ปี25
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
Le29Amulet
ก้อง วัฒนา
สายน้ำอุ่น
fuchoo18
Bon13
ว.ศิลป์สยาม
Beerchang พระเครื่อง
นนท์ คุณพระ
tosss
poop2015
vanglanna
ภูมิ IR
พีพีพระเครื่อง
พีพีพระสมเด็จ
someman
ชา วานิช
lord
พระเครื่องโคกมน
Muthita
natthanet
กรัญระยอง
เปียโน
Spiderman
บ้านพระหลักร้อย
บ้านพระสมเด็จ
nattapong939
อภินันต์ พระเครื่อง
Chumphol
Kshop
เจริญสุข
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1044 คน
เพิ่มข้อมูล
ตะกรุดจำปาสี่ต้น ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ลำพูน
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
ตะกรุดจำปาสี่ต้น ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ลำพูน
รายละเอียด
ตะกรุดจำปาสี่ต้น ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ลำพูน
ตะกรุดจำปาสี่ต้น ยุคต้นเนื้อทองแดง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ทางเหนือเรียกว่า ยันต์จุ๋มป๋าสี่ต้น (คำว่ายันต์ ทางเหนือ หมายรวมถึง ตะกรุด ผ้ายันต์ ตัวยันต์) ตะกรุด จำปาสี่ต้น เป็นตะกรุดที่มีพุทธคุณโดดเด่น ในด้านเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ
ตะกรุดจำปาสี่ต้นเป็นตะกรุดที่หลวงพ่อครูบาวัง สร้างแจกบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่มีอาชีพในด้านค้าขาย มีลูกศิษย์นำไปใช้บูชาประสบความสำเร็จด้วยความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือ จึงได้ชื่อว่า “ตะกรุดค้าแม่น ขายหมาน” คือค่าคล่อง ขายดี
คาถาบูชาตะกรุดจำปาสี่ต้น
“อะหังกิงนโข มะยาปิโวเอหิเอถะมนุสสะอิฐีปุริโสราชาโน พรมมะปะริสันตังปิยะกะยังอะจะริโยกะริสะถะปิยังมามะ” (ใช้สำหรับทำน้ำมนต์ประพรมร้านค้าขาย เป็นคาถาเรียกคนเข้าร้าน)
วิธีใช้
- ถ้าเก็บไว้กับตัวช่วงเย็น จะกันขโมย
- ครอบครัวรุ่มร้อนอยู่ไม่เป็นสุข ให้แช่น้ำแล้วประพรมบ้าน (ใช้ตะกรุดพรม) จะช่วยให้อยู่สบายดี
- สัตว์ไม่สบาย ให้เอาฝักส้มป่อยแช่น้ำ เอายันต์ (ตะกรุดจำปาสี่ต้น) ชุบแล้วพรม จะหายป่วย
- ถูกของทำมาเอายันต์แช่น้ำสะอาดผสมฝัก ส้มป่อยแล้วท่องคาถา นำน้ำนั้นมาประพรมมาอาบ
- เปิดร้านเอายันต์แช่น้ำสะอาดประพรม ของในร้าน
- หากมีคนเกลียดเรา ให้เขียนชื่อใส่ใบโพธิ์ แล้วเอายันต์ทับไว้ เขาจะอ่อแก่เรา ไม่คิดทำร้ายเรา
- ต้องการให้เจ้านายรัก ให้เขียนชื่อใส่ใบตาล แล้วเอายันต์ทับไว้ จะรักเมตตา
- ต้องการให้หญิงรัก เอาใบโพธิ์ที่หล่น (ไม่ใช่ไปเด็ดมา) ทางทิศตะวันตก 1 ใบ ตะวันออก 1 ใบ มาเขียนชื่อเราด้านหน้าใบ 1 เขียนชื่อหญิงด้านหลังใบ 1 แล้วเอาใบไม้ทั้งสองประกบกันให้ด้านที่มีชื่อชนกันโดย ให้ชื่อเราอยู่ข้างบน หลังจากนั้นเอายันต์ทับไว้ อาราธนาคาถาอธิษฐานจิต
- จะไปต่อสู้คดีความกับใครให้พกยันต์ ไว้ข้างหน้า
- จะไปพบหญิงให้พกไว้ข้างซ้าย
- จะไปพบเจรจากับชายให้พกไว้ข้างขวา
เป็นตะกรุดที่หลวงพ่อครูบาวัง สร้างแจกให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่มีอาชีพในด้านค้าขาย สามารถอาราธนาเเช่น้ำทำน้ำมนต์ประพรหมสินค้าที่จะขายได้ หอมฟุ้งเหมือนดอกจำปา
ตัวจริงหายากกว่า 9 กุ่มอีกครับผม
#เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้า เจรจาค้าขาย เจ้าของธุรกิจ
ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก เป็นพระเถระที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติครบถ้วนในสมณสารูป มีความเมตตากรุณาแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยท่านได้สร้างวัดบ้านเด่นตั้งแต่ยังเป็นป่าดง จนกลายเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรือง มีผู้รู้จักกว้างขวางอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังได้สร้างพระเครื่องรางของขลังจนเป็นที่ยอมรับของลูกศิษย์ลูกหาว่าเป็นของดีที่มีคุณค่า ท่านถือกำเนิดที่บ้านต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ย. 2434 ปีเถาะ เป็นบุตรของเจ้าคำปวน และเจ้าบัวเงา ณ ลำพูน บิดามารดาเป็นเชื้อสายเจ้าภาคเหนือ แต่ครอบครัวของพ่อยึดอาชีพค้าขายทำไร่ทำนาตลอดมา มำพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 หญิง 4 ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น “แก้วมหาวงศ์”
เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดบ้านเหมืองจี้ จนกระทั่งอุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2455 ณ วัดบ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระกันธิยะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการปั๋น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการปุ้ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมเสโน”
หลังอุปสมบทแล้วได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยครั้งแรกได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดต้นธงชัย อ.แม่พริก จ.ลำปาง จนได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ 4 พรรษา ต่อจากนั้นได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดสองแคว อ.เมือง จ.ตาก อีก 2 พรรษา และได้เป็นเจ้าอาวาสเช่นกัน หลังจากนั้นจึงได้มาสร้างวัดบ้านเด่น ในจำนวนเวลาที่เดินธุดงค์ 12 ปีนั้น มีอยู่ 2 ปีที่ท่านได้ธุดงค์ไปเมืองย่างกุ้งเพื่อเรียนภาษาพม่า และได้เรียนเวทย์มนต์คาถาที่เป็นภาษาพม่าจนมีความชำนาญอย่างดี จึงเดินทางกลับเมืองไทย ในระหว่างทางได้พบป่าแห่งหนึ่งชื่อ “ป่าเด่นกระต่าย” ซึ่งมีความร่มเย็นน่าอยู่อาศัย และมีหมู่บ้านที่ห่างไกลและยากจน จึงคิดสร้างวัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาวบ้านในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เริ่มแรกท่านได้สร้างกุฏิมุงหลังคาด้วยไม้แฝกก่อน 3 หลัง ซึ่งนับเป็นสำนักสงฆ์ที่แห้งแล้งยังไม่มีอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ต่อมาประชาชนในต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งอยู่ในบริเวณที่สร้างวัดบ้านเด่น ได้มองเห็นความจำเป็นของพระสงฆ์ที่ทนทุกข์ยากลำบากในเรื่องความเป็นอยู่ และอาหารการกิน จึงสละแรงกายแรงใจช่วยกันคนละไม่คนละมือร่วมกับพระสงฆ์สามเณร จนได้ศาลาไม้เก่าขึ้นมาหนึ่งหลัง และให้ชื่อว่า “วัดบ้านเด่น” ตามสถานที่ตั้งวัดซึ่งเป้นป่าเด่นกระต่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ป่าแห่งนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่วัดบ้านเด่นจะมีชื่อเสียงเด่นสมชื่อสมความปรารถนาของครูบาวัง วัดแห่งนี้ได้รับความอุปถัมภ์จากปลักอำเภอเมืองตาก และครอบครัว รวมทั้งประชาชนทั่วไป ปลัดอำเภอท่านนั้นก็คือ “ขุนโสภิต” บิดาของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อครูบาวัง ซึ่งได้มอบตัวเป็นศิษย์และเป็นผู้บริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดเป็นจำนวนมาก ครูบาวังท่านเป็นเจ้าอาวาสผู้ถือปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมาโดยตลอด ได้บำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือสาธุชนผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอมาด้วยความเมตตาปรานี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ทุกหมู่เหล่า โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จนมีศิษยานุศิษย์มากมายทั่วประเทศ
เครื่องรางของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในภาคเหนือ และมีประสบการณ์ความศักดิ์เข้มขลังก็คือ “ตะกรุด” ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ตะกรุด 5 ดอก,9 ดอก,108 ดอก,ตะกรุดจำปาสี่ต้น,ตะกรุดคลอดลูกง่าย,ตะกรุดแหนบใบพลู และสีผึ้งน้ำมนต์ ,ชานหมาก และเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี2506 นอกจากนี้ ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องรักษาไข้และโหราศาสตร์ รวมทั้งมีพรพิเศษอีกประการหนึ่งคือ ท่านสามารถนั่งเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนให้โชคลาภ หรือนั่งเทียนเพื่อให้ชนะคดีความยามขึ้นโรงขึ้นศาล และในเรื่องอื่นๆ วาระสุดท้ายแห่งชีวิต ครูบาวังได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2516 เวลา 24.00 น. ณ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ด้วยวัย 82 ปี พรรษาที่ 62 โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น 56 พรรษา
ผู้สืบสานวิทยาคมล้านนาตำหรับหลวงพ่อครูบาวัง
คืนหนึ่งขณะที่พระอาจารย์ภูไทย ปภากโร เจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว ทุ่งเสลี่ยม สุดขทัยกำลังทำกรรมฐานอยู่ ได้นิมิตไปว่า ได้ไปเจอะพระภิกษุชรารูปหนึ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้เองหลังโบราณ ในนิมิตท่านอาจารย์ภูไทย ได้เข้าไปกราบท่านและขอเรียนวิชากับท่าน ท่านได้เมตตาบอกสอนวิชาพร้อมกับบอกเคล็ดลับบางประการให้ทราบ ทั้งๆที่ตอนนั้นยังไม่ทราบเลยว่าพระภิกษุชรารูปนั้นชื่ออะไร อยู่วัดไหน หลังจากคืนนั้นแล้ว ท่านได้พยายามสอบถาม และพยายามค้นหาว่าพระภิกษุรูปนั้นคือใคร
จนวันหนึ่งหลังจากท่านพระอาจารย์ได้ไปร่วมงานทำบุญอายุวัฒนมงคลของหลวงปู่บุญ โสภณวัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี เสร็จงานท่านได้เดินทางไปจังหวัดขอนแก่น เพื่อทำธุระบางประการ ณ ที่นั้น ท่านได้เจอะพระรูปหนึ่ง ก็ได้สนทนากัน และท่านได้เล่าเหตุนิมิตในคืนนั้นให้พระรูปนั้นฟัง พระรูปนั้นก็บอกว่า น่าจะเป็นหลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก ซึ่งท่านได้มรณะภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๖ แล้ว
ราคาปัจจุบัน
8000
จำนวนผู้เข้าชม
496 ครั้ง
สถานะ
ยังอยู่
โดย
ponsrithong2
ชื่อร้าน
พลศรีทองพระเครื่อง2 ( บู เชียงราย )
URL
http://www.ponsrithong2.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0639695995
ID LINE
busoftware52
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี